วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ระบบการเข้าออกท่าเรือ (e-Gate / e-Toll)

ระบบเข้าออกท่าเรือแบบใหม่ (e-Gate ท่าเรือกรุงเทพ) และ (e-Toll ท่าเรือแหลมฉบัง) ที่จะเริ่มใช้จริงวันที่ 1 ตุลาคม 2554 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ให้บริการรวมทั้งสนับสนุนการ เป็นศูนย์กลาง ธุรกิจและการค้าของภูมิภาคอินโดจีนได้จริง ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเช่น การท่าเรือกรุงเทพและแหลมฉบังต้องเร่งโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้มากบอกถึงวิธีการทำงาน ข้อดีข้อเสียและสิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับ นี้ก็เหลือเดือนสุดท้ายแล้วความตื่นตัว ทั้ง e-Gate และ e-Toll ของท่าเรือและผู้ประกอบการยังน้อยมาก ผมยังมีความคิดว่า ผู้ประกอบการหลายที่ยังไม่ทราบระบบใหม่นี้ วอนการท่าเรือช่วยหาวิธีบอกกล่าวให้มากขึ้น มิฉะนั้นต้นเดือนตุลาคมนี้ ความวุ่นวายสับสนจะเกิดขึ้นทั้งกรุงเทพและแหลมฉบัง ลองมองภาพดูว่า แต่ละวันมีรถเข้าออกท่าเรือเท่าใด ถ้ามีปัญหาสัก 50% ทั้งคนและรถต้องอยู่ชุลมุนอยู่ทางเข้า ผมเป็นชิปปิ้งเข้าออกประจำ มองภาพแล้วเป็นห่วงจริงๆ
สำหรับท่านที่ยังไม่ค่อยอ่านระบบ e-Gate และ e-Toll ที่ผมได้เคยให้ข้อมูลไปแล้ว ผมกล่าวสรุปให้อีกครั้งพอสังเขปนั้นคือ โครงการติดตั้งระบบจัดเก็บค่ายานพาหนะผ่านท่าในระบบใหม่เพิ่มพัฒนาการให้ บริการระบบท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ ยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ อีกทั้งเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์รวมทั้งพัฒนาการให้บริการเพื่อให้เป็นไปตาม ประมวลข้อบังคับว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ หรือ ISPS CODE ในการขนย้ายตู้สินค้าและรถบรรทุกที่ผ่านเข้าออกท่าเรือ โดยนำระบบ OCR (POTICAL CHARACTER RECOCNITION) และ RFID (RADIO FREQUENCY IDENTIFICATLCN) มาใช้ในการตรวจสอบข้อมูลตู้สินค้า บุคคล ยานพาหนะ ค่าธรรมเนียม และจุดหมายปลายทาง เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น การติดตั้งระบบและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย เกิดประสิทธิภาพในงานเข้า - ออกประตูตรวจสอบของยาพาหนะและบุคคล มีความคล่องตัวได้ดีตาม เจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ได้เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายถ้าขาดความร่วมมือกันแล้ว ไม่ว่าระบบการเข้าออก ท่าเรือจะติดปัญหาอย่างเดียว ชิปปิ้งก็จะมีงานแก้ไขปัญหามากขึ้นเพราะปัจจุบันชิปปิ้งต้องรับผิดชอบ ตรวจปล่อย, ภาระสินค้าในท่าเรือ การขนย้ายสินค้าและตู้สินค้า รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเข้าออกท่าเรือให้ผู้ประกอบการอยู่แล้ว
ท่านใดยังไม่ได้ดำเนินการรีบดำเนินการโดยด่วนมิฉะนั้น จราจลของจราจรบริเวณเข้าออกท่าเรือจะเกิดขึ้นแน่ อาจมีผลถึงขั้นสินค้านำเข้าส่งถึงโรงงานช้า ขาดวัตถุดิบในการผลิต และถ้าเป็นสินค้าส่งออกตู้สินค้าคืนท่าเรือไม่ทันหรือภาษาชิปปิ้งพูดบ่อยๆ ว่า "ตู้ตกเรือ" อีก 1 เดือน เหลือเวลาอีกไม่มากนะครับจะบอกให้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น